“จังหวัดสุราษฎร์ธานี” เมืองใหญ่ที่มีความเจริญคู่ขนานไปกับวิถีชีวิตเรียบง่าย มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทั้งท้องทะเลกว้างใหญ่ และป่าเขาลำเนาไพร คู่รักที่กำลังเตรียมตัวลั่นระฆังวิวาห์ สามารถมองหาแหวน และเครื่องประดับเจ้าสาว เช่น สร้อยข้อมือ กำไลข้อมือ ต่างหู จี้ เข็มกลัด ฯลฯ ที่นี่มีร้านหลายสไตล์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นห้างทอง ร้านเพชร หรือร้านอัญมณีอื่น ๆ ทุกร้านที่ Centerwedding รวบรวมมามีการออกแบบแหวนแต่งงานที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำร้าน ผลิตโดยช่างฝีมือเยี่ยมมากประสบการณ์ และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา
สมัยโรมันฝ่ายชายจะสวมแหวนเจ้าสาวที่นิ้วนางของฝ่ายหญิงในพิธีหมั้น ต่อมาสมัยยุโรปยุคกลาง ในพิธีแต่งงานทางศาสนาคริสต์มีการสวมแหวนเรียงกันที่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง ก่อนที่จะเหลือเพียงนิ้วนางข้างซ้าย นั่นเป็นเพราะก่อนหน้าที่มนุษย์จะสามารถพิสูจน์เรื่องต่าง ๆ ได้ด้วยวิทยาศาสตร์และการแพทย์ มีความเชื่อว่าเส้นเลือดจากนิ้วนางข้างซ้ายเชื่อมตรงไปยังหัวใจ มีชื่อว่า “Vena Amoris” (วีนา อะมอริส) หรือ "เส้นเลือดแห่งความรัก" (Vein of love) นอกจากนี้ยังมีความเชื่อของชาวจีนว่า นิ้วโป้งแทนพ่อแม่ นิ้วชี้แทนพี่น้อง นิ้วกลางแทนตัวเรา นิ้วนางแทนคู่ชีวิต นิ้วก้อยแทนลูก เมื่อนำนิ้วมือข้างขวามาประกบกับข้างซ้าย งอนิ้วกลางเข้าหากันด้านใน จากนั้นลองแยกนิ้วที่แตะกันออกทีละนิ้ว จะเหลือเพียงแค่นิ้วนางที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ เปรียบได้กับคู่ชีวิตจะอยู่กับคุณไปจนแก่เฒ่าไม่มีวันพรากจาก แต่ก็มีหลายประเทศในยุโรปที่สวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางข้างขวา เช่น นอร์เวย์, รัสเซีย, กรีซ,ยูเครน, บัลแกเรีย, โปแลนด์, ออสเตรีย, เยอรมัน, โปรตุเกส, สเปน ฯลฯ และผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอด็อกซ์ (Orthodox) ส่วนชาวยิวจะสวมแหวนให้บนนิ้วชี้ สำหรับธรรมเนียมของไทยรับมาจากตะวันตกคือ นิยมสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้าย สุดท้ายแล้วไม่มีกฎตายตัวว่าจะสวมนิ้วนางข้างซ้ายหรือขวา หรือสวมนิ้วอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม ศาสนา และความพึงพอใจส่วนบุคคล
สำหรับคู่บ่าวสาวในตะวันตกจะนิยมมอบแหวนเพชรแก่เจ้าสาวเป็นแหวนหมั้น และในพิธีแต่งงานจะมอบแหวนกลมเกลี้ยงไม่มีรอยต่อ หรือแหวนเพชรเม็ดเรียงรอบวง หมายถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ ส่วนคู่บ่าวสาวชาวไทยนอกจากแหวนเพชรแต่งงาน และแหวนทอง แหวนที่ผลิตจากโลหะมีค่าและอัญมณีอื่น ๆ ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เช่น เงิน (Silver) แพลทินัม (Platinum) ไข่มุก (Pearl) ทับทิม(Ruby) บุษราคัม (Yellow Sapphire) ไพลิน (Blue Sapphire) เป็นต้น ราคามีหลายระดับตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้าน แหวนเจ้าบ่าวมักจะถูกกว่าแหวนเจ้าสาวเพราะนิยมเป็นแหวนเรียบ ๆ บางร้านจะออกแบบให้เป็นแหวนคู่ ซื้อ 2 วงในราคาพิเศษ ราคาแหวนทองหรือเงิน เริ่มต้นที่ 2,500 บาทขึ้นไป เพชรขนาด 0.30 - 0.40 กะรัต ราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุ ดีไซน์ ขนาด และคุณภาพ
นอกจากกำหนดงบประมาณ รูปแบบที่ชอบ ก่อนตัดสินใจซื้อคุณและคนรักควรเตรียมความพร้อมโดยการหาข้อมูลเบื้องต้นสักนิดจะได้เลือกซื้ออย่างสบายใจ ตัวอย่างเช่น หากเลือกแหวนทอง ควรทราบก่อนว่า ทองคำที่ซื้อขายในประเทศไทยมีความบริสุทธิ์ 96.5% มีการวัดน้ำหนักเป็น “บาท” ทองรูปพรรณ 1 บาท หนักเท่ากับ 15.6 กรัม และทองคำไม่ได้มีแค่ทองคำบริสุทธิ์สีเหลือง(Yellow Gold) เท่านั้น แต่ยังมีทองที่เจือธาตุอื่น ๆ ลงไปจนกลายเป็นหลายเฉดสี เช่น ทองขาว (White Gold) ทองสีกุหลาบ (Rose Gold) ทองคำชมพู (Pink gold) ฯลฯ สำหรับการเลือกแหวนเพชรแต่งงาน ต้องดูตามหลัก 4Cs คือ Color (สี) Clarity (ความบริสุทธิ์) Cut (การเจียระไน) และ Carat Weight (น้ำหนักของเพชร) ที่สำคัญคือ ต้องเลือกร้านที่เชื่อถือได้ เพชรมีใบรับรองคุณภาพจากสถาบันที่ได้มาตรฐานสากล เช่น GIA, IGI, HRD ฯลฯ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกแหวนคู่ แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน หรือเครื่องประดับเจ้าสาว วัสดุอะไร ดีไซน์แบบไหน ราคาเท่าไร ก็ล้วนมีความหมายและคุณค่าด้วยกันทั้งสิ้น เป็นทั้งสัญลักษณ์แทนใจ และเมื่อเวลาผ่านไปหากคุณรู้สึกเหนื่อยล้า หรือเจอกับความยากลำบากในชีวิตคู่ แหวนก็จะทำหน้าที่ย้ำเตือนให้หวนระลึกถึงความทรงจำที่แสนหวานในวันแต่งงาน ทำให้คุณมีพลังและอบอุ่นหัวใจเสมอ